The Broad : SS Museum EP.3 พาเที่ยวมิวเซียมอาร์ตที่คูลที่สุดของ LA
ยินดีต้อนรับสู่ช่วง SS Museum อีกครั้งค่ะ ด้วย passion ของเรามากที่อยากเล่าเรื่องราวของ มิวเซียมดีไซน์จากทั่วโลก ก็เลยทยอยลิสต์รายชื่อมิวเซียมที่ชอบมาเรื่อยๆ และพยายามจะเขียนออกมาให้ได้มากที่สุด (สัปดาห์ละครั้ง) และมาถึงตอนที่ 3 กันแล้ว นั่นคือ The Broad
เพื่อนๆ คนไหนที่ชอบเรื่องราวของมิวเซียมจากทั่วโลก เรารวมไว้แล้วที่โซน Travel > Museum คลิกเลย! หรือเรื่องของ Brand คลิกเลย!
.
The Broad of LA
หากใครได้มีโอกาสไป LA (ลอสแองเจอลิส, สหรัฐอเมริกา) เราขอบอกเลยว่า The Broad ถือเป็นมิวเซียม Contemporary Arts ที่พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง ด้วย 2 เหตุผลนั่นคือ
- สถาปัตยกรรม ที่โดดเด่นและที่ตั้งบน Downtown ของ LA
- ชิ้นงาน ที่ถูกจัดแสดง เรียกว่างานตัวท็อประดับโลกทั้งนั้น!
และด้วย 2 เหตุผลนี้แหละ ที่เราจะเล่าถึงความเจ๋งของมิวเซียมนี้ให้ฟัง!
.
.
In the name of BROAD
The Broad ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2015 โดยมหาเศรษฐีที่รวยติดอันดับ 1 ใน 100 ของโลกนี้ นั่นคือ Eli และ Edythe Broad ซึ่งด้วยความร่ำรวยหนักมาก ทำให้งานอดิเรกคือการเก็บสะสมงานของศิลปินชื่อดังระดับโลกในตำนานไว้เยอะมาก จนอยากแบ่งปันให้ผู้ชมทั่วโลกได้ชื่นชมกัน
.
ด้วยงบกว่า 140 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ เวลากว่า 5 ปี ทั้งได้เชิญบริษัทสถาปนิกชื่อดังทั่วโลกเข้ามาประกวดแบบว่าใครจะได้สร้างมิวเซียมนี้ไป ซึ่งก็มีบริษัทใหญ่ยักษ์เช่น Rem Koolhaas, Herzog & de Meuron, SANAA มาเข้าร่วม แต่สุดท้ายแล้ว บริษัทที่ได้ออกแบบตึกสุดอลังการอันน่าจดจำนี้คือ Diller Scofidio + Renfro บริษัทออกแบบสถาปัตยกรรมระดับต้นๆ ของโลกจากนิวยอร์ก
.
The Architecture
งานออกแบบของ Diller Scofidio + Renfro มาในแนวคิด “ผ้าคลุมหน้าและโถงถ้ำ” (The Veil and the Vault) ที่ตึกนี้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน นั่นคือ ด้านในและด้านนอก
.
ในส่วนด้านนอก ตัวผิวของอาคารถูกเรียกว่า The Veil หรือ ผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวในงานแต่งงาน โดยทำมาจาก Fiber glass reinforced concrete ที่มีลักษณะคล้ายรังผึ้ง จำนวนถึง 2,500 ชิ้น ความเจ๋งของเจ้าวัสดุนี้คือ จะช่วยกรองแสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามาในห้องจัดแสดง ไม่ให้โดนงานศิลปะมากเกินไป
.
.
และความเจ๋งอีกอย่างของ The Veil นั่นคือ เมื่อขึ้นไปถึงห้องจัดแสดงงานด้านบนสุด จะมี Skylight ที่ส่องแสงจากด้านบนมา แต่ความพิเศษคือ ให้แสงที่ดี สว่าง เสียจนไม่เห็นเงาคนเดินไปมา ทำให้เราโฟกัสกับงานศิลปะได้อย่างเต็มที่
.
และในส่วนด้านในที่เราเรียกว่า “โถงถ้ำ” มีการใช้คอนกรีตเพื่อสร้าง The Vault (ห้องนิรภัย) หรือ โซนตู้เซฟที่เก็บงานศิลปะกว่า 3 ชั้น และพร้อมพื้นที่จัดแสดงงานกว่า 3,500 ตารางเมตร (ชั้น 3) และ 1,500 ตารางเมตร (ชั้น 1) และทุกโซนการจัดแสดงจะไม่มีเสา เพื่อกีดขวางการรับชมงานศิลปะเลย
.
เมื่อเข้าไปในตึก เราจะถูกให้ขึ้นบันไดเลื่อนหรือลิฟท์แก้วไปชั้นบนสุดก่อน และดูห้องจัดแสดง จากนั้นก็ค่อยๆ เดินลงบันไดมาเพื่อชมงานศิลปะไปเรื่อยๆ และแน่นอนว่า ประสบการณ์การเดินในตึกที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี พร้อมกับงานศิลปะระดับเกรด S นั่นจะทำให้คุณไม่ลืมที่นี่แน่นอน
.
.
The Masterpieces
ด้วยเหตุผลที่ 2 ที่ทำให้ งานศิลปะภายใน The Broad เป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้มาเช็คอินที่นี่ให้ได้ เพราะรายนามผลงานของแต่ละคน เรียกได้ว่า ตัวท็อปของศตวรรษที่ 20 กันเลย เราจะพาไปชมแต่ละงานกัน เรียกได้ว่า ร้องว้าวกันแน่นอน !
.
Andy Warhol (1928 – 1987)
ศิลปิน POP-ART ชื่อก้องของโลกชาวอเมริกา งานของเค้าเป็นที่จดจำเยอะมาก และตัวที่มาแสดงที่นี่ คือ Two Marilyns, Campbell’s Soup Can (Clam Chowder – Manhattan Style) [Ferus Type]
.
Jeff Koons (1955)
ศิลปิน POP-ART อีกรายของโลก ที่งานเรียกได้ว่าน่าจดจำ น่าสะสม และร่ำรวยอันดับต้นๆ ของโลก และ งานที่มาแสดงที่นี่คือ Tulips, Balloon Dog (Blue)
.
Roy Lichtenstein (1923 – 1997)
ศิลปินสาย POP-ART, Comic ระดับตำนานของโลก ก็มีงานโชว์ที่นี่เช่นเดียวกัน ผลงานคือ Reflections: VIP! VIP!, Woman: Sunlight, Moonlight
.
Damien Hirst (1965)
ศิลปินงานสุดเท่จากอังกฤษ ที่เรียกได้ว่าเราเป็นแฟนผลงานเค้ามากเลย และแต่ละชิ้นตัวพีคๆ ก็ถูกจัดแสดงที่นี่ เช่น Away from the Flock
.
Yayoi Kusama (1929)
ศิลปินหญิงชื่อดังชาวญี่ปุ่น ที่เรามักจะคุ้นเคยในงานรูปปั้นฟักทองลายจุดยักษ์ และผลงานที่นี่นำมาแสดงคือห้อง Exhibition สุดอลังการ ที่ทุกคนต้องถ่ายลง IG กันแน่ๆ คือ Infinity Mirrored Room-The Souls of Millions of Light Years Away
.
Takashi Murakami (1962)
ไม่ต้องตกใจว่าทำไมชื่อคุ้น ใช่ค่ะ! ที่นี่มีงานจัดแสดงของ มูราคามิ เจ้าของงานดอกไม้สีสันสดใสนั่นเอง และที่นี่ก็มีงานเจ้าดอกไม้สีด้วยน้า คือ Hustle’n’Punch By Kaikai And Kiki
.
Stay in touch
The Broad ถือเป็นความตั้งใจของสามีภรรยา Eli และ Edythe Broad ที่จัดสร้างมิวเซียมนี้ขึ้นมา นอกจากงานศิลปะ และ สถาปัตยกรรมที่ชนะเลิศแล้ว ด้านในยังมีร้านอาหาร Otium (ที่มาจากภาษา Latin แปลว่า “leisure time“) และ ด้านนอกยังมี The Plaza – สวนสำหรับพักผ่อน อีกด้วย
.
.
สุดท้ายแล้ว ถ้าใครได้มีโอกาสไป LA เราขอบอกเลยว่า อย่าพลาดการชมมิวเซียมนี้เป็นอันขาด (และอย่าลืมไป Disney concert hall ด้านข้างด้วย ก็พีคไม่แพ้กัน)
Reference
- https://www.thebroad.org/
- https://en.wikipedia.org/wiki/The_Broad
- http://gotarch.com/blog/?p=2602
- https://m.museumsiam.org/da-detail2.php?MID=0&CID=13&CONID=1581
Related posts:
- Solomon R. Guggenheim : SS Museum EP.2 พาเที่ยวมิวเซียม Solomon R. Guggenheim นิวยอร์ก
- Louvre Abu Dhabi : SS Museum EP.6 มิวเซียมระดับโลกถูกยกมาไว้ที่อาบูดาบี!
- Rijkmuseum : SS Museum EP.7 เยือนมิวเซียมแห่งชาติของเนเธอร์แลนด์ เมืองแห่งศิลปินระดับโลก
- เที่ยว Pop-up museum – รวม 10 Pop-up museum น่าไป ชื่อดังระดับโลก