Louvre Abu Dhabi : SS Museum EP.6 มิวเซียมระดับโลกถูกยกมาไว้ที่อาบูดาบี!

Louvre Abu Dhabi : SS Museum EP.6 มิวเซียมระดับโลกถูกยกมาไว้ที่อาบูดาบี!

.

นี่คืออีกหมุดหมายนึงของโลกที่เราต้องไปให้ได้! กับมิวเซียมระดับโลกอย่าง Louvre ที่เปิดสาขา 2 บนเอเชีย ที่เมือง อาบูดาบี, UAE สหรัฐเอมิเรตส์ นอกจากสถาปัตยกรรม เรื่องราวการก่อสร้างสุดประทับใจแล้ว วันนี้เราจะพาไปรู้จักงานก่อสร้างที่สุด และ เรื่องราวมากมาย จนใครไม่อิน เราเชื่อว่าไปทั้งที โปรดไปที่นี่เถอะ!!

เพื่อนๆ คนไหนที่ชอบเรื่องราวของมิวเซียมจากทั่วโลก เรารวมไว้แล้วที่โซน Travel > Museum คลิกเลย! หรือเรื่องของ Brand คลิกเลย!

History of Louvre

ก่อนที่จะไปรู้จักกับมิวเซียมสาขา 2 เรามาทำความรู้จักกับ Louvre กันก่อนดีกว่า

.

Louvre (ลูฟวร์) แต่เดิมนั้นเป็นชื่อของพระราชวังตั้งแต่สมัยปี 1190 ในสมัยของ King Philippe Auguste ประเทศฝรั่งเศส ที่ถูกสร้างเพื่อเอาไว้เป็นบ้านพักตากอากาศ ตามประสากษัตริย์ แต่ต่อมาเมื่อ ฝรั่งเศสเกิดการปฏิวัติในปี 1793 พระราชวังลูฟวร์ จึงถูกเปลี่ยนให้กลายเป็น พิพิธภัณฑ์ หลังจากนั้น ด้วยเหตุผลที่ว่า ที่นี่คือวังของประชาชน (People’s Palace.) และถูกเรียกขานใหม่เป็น “New Louvre”

.

แต่สิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกนั้นคือ ภาพวาดสุดยอดระดับตำนานของโลก MonaLisa ของ Leonardo da Vinci ศิลปิน นักสร้างสรรค์ชื่อดังระดับโลกจากอิตาลี และ โดมแก้วทรงพีระมิด สถาปัตยกรรมของมิวเซียมที่สร้างเสร็จในปี 1989 โดยสถาปนิกชาวจีน-อเมริกา I.M. Pei. จนกลายเป็น Symbolic ที่น่าจดจำ และกลับมาดังก้องอีกครั้งกับภาพยนตร์ DaVinci Code นั่นเอง

.

ปัจจุบัน Louvre ถือคล้ายเหมือนเป็นเฟรนไชน์พิพิธภัณฑ์ระดับโลกที่ดูแลโดยรัฐบาลฝรั่งเศส และกลายเป็นมิวเซียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก (เรียกว่าเดิน 4 วันก็ไม่หมดสักที) ที่มีผู้เยี่ยมชมมากกว่า 7.4 ล้านคนต่อปี และผลงานระดับโลกหลายชิ้นถูกแสดงที่มิวเซียมระดับตำนานแห่งนี้

.

Louvre Abu Dhabi

แล้วทำไม มิวเซียมระดับตำนาน ถึง มาเปิดที่ อาบูดาบี ได้ เพราะมันมีการดีลกัน เกิดขึ้น

.

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และฝรั่งเศส ได้ทำข้อตกลงกันในการพัฒนามิวเซียมแห่งชาติ และเป็นแห่งแรกในโลกอาหรับ โดยทำแผนข้อตกลงตั้งแต่การแลกเปลี่ยนชิ้นงาน, เงินทุน เพื่อสร้าง “สะพานเชื่อมอารยธรรม” และได้ซื้อลิขสิทธิ์ชื่อ Louvre มาใช้ที่มีมูลค่ากว่า 520 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยภายในสัญญาจะให้ใช้ชื่อได้ 30.5 ปี และ ยืม Artwork งานศิลปะเป็นเวลา 15 ปี (เรียกว่า เช่าเซ้งกันสุดๆ)

.

แต่นอกจาก Louvre แล้วบอกเลยว่า แผนการพัฒนาเมืองของ อาบูดาบี นั้นอลังการงานสร้างมาก และใช้สถาปนิกระดับโลกอีกเยอะมาก และไม่ได้มีแค่ Louvre แห่งเดียวบนทำเล เกาะ Saadiyat นี้!! แต่เราขอเล่าเรื่องนี้ไว้ท้ายสุดละกัน

.

The Architecture

จากการดีลกันหลัก 10 ปี จนมาถึงการเปิดมิวเซียมในปี 2017 สิ่งที่ตื่นตาตื่นใจชาวโลกคือ อาคารของ Louvre Abu Dhabi ที่แปลกใหม่ ล้ำสมัย และไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน และนี่คือใจความสำคัญของที่นี่ นั่นคือ การก่อสร้าง และ การออกแบบ นั่นเอง

.

Louvre Abu Dhabi ถูกออกแบบโดย JEAN NOUVEL สถาปนิกระดับโลกชาวฝรั่งเศส ที่คว้ารางวัลมากมาย และผลงานเป็นที่คุ้นเคยพวกเราแน่นอน เรียกได้ว่าเป็นตัวท็อปของวงการ และด้วยผลงานของที่นี่ เค้าก็ไม่ทำให้ผิดหวัง และถูกก่อสร้างโดย Buro Happold ที่เรียกได้ว่า ผลงานดีเพราะผู้รับเหมาโดยแท้

.

จุดเด่นที่สุดคือ อาคารรูปทรงโดม ที่ใช้เวลาก่อสร้างเฉพาะโดมเป็นเวลา 2 ปี งานออกแบบได้รับแรงบันดาลใจมากจาก เมืองโบราณเมดีนา ของชาวอาหรับที่ ซาอุดิอาระเบีย ที่ถือเป็นรูปโดมที่สวยงาม แปลกใหม่ พร้อมเปิดรับแสงธรรมชาติ และ ระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี

.

และ มิวเซียมแห่งนี้ยังตั้งอยู่กลางทะเลอ่าวเปอร์เซียในอาบูดาบี เรียกได้ว่า สร้างเกาะใหม่เพื่อมิวเซียม และ ภาพที่ทุกคนจะได้เห็นคือ โดมที่ลอยอยู่เหนือทะเล นั่นเอง

.

นอกจากกลางทะเลแล้ว มิวเซียมนี้ยังประกอบไปด้วย อาคาร 55 หลัง มีทั้งหมด 23 แกลเลอรี่ (ที่เรียกตัวเองว่า Museum City) ภายใต้โดมยักษ์ที่สร้างจากโครงเหล็ก และ มีน้ำหนักกว่า 7,500 ตัน (เทียบเท่าน้ำหนักของหอไอเฟล) พร้อมการประกอบของโดมที่ประกอบจากหลังคาทั้งหมด 8 ชั้นด้วยกัน โดย 4 ชั้นนอกทำมาจาก สแตนเลส และ 4 ชั้นในทำจากอะลูมิเนียม

.

และโดมแต่ชั้นนั้น ล้วนมีการฉลุ เจาะรู ช่องแสงเพื่อให้แสงลอดผ่านเข้ามา ที่นักออกแบบเรียกว่า Star (ดวงดาว) และมีถึง 7,850 ช่อง และเมื่อเข้าสู่ตัวอาคาร เราจะเห็นแสงแดดลอดผ่านมา ไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน ที่ถูกเรียกว่า “Rain of Light” 

.

อีกเรื่องที่น่าสนใจของที่นี่ และ คนที่คุ้นเคยกับการเดินมิวเซียมจะรู้ดีคือ “การปกป้องการศิลปะจากแสง” แต่ที่นี่ หลังคาเป็นโดมที่มีช่องแสงลงมาทั้งหมด แล้วจะปกป้องการศิลปะได้อย่าง ? คำตอบคือ “ม่านบังแสง” พร้อมเซ็นเซอร์ที่คอยวัดอุณหภูมิแสง ความเข้มของแดด ไม่ให้ทำลายงานศิลปะ ได้นั่นเอง

.

ที่นี่จึงไม่เพียงแค่เป็นมิวเซียมที่มีชื่อเสียง แต่บรรยากาศภายใน เบื้องหลังการก่อสร้าง ล้วนมีเรื่องราวและการลงทุนที่มหาศาล และ กินเวลาการก่อสร้างมากกว่า 10 ปี

.

The Masterpiece

นอกจากการก่อสร้าง โดม มิวเซียมกลางทะเลแล้ว อีกสิ่งที่หนึ่งที่ควรค่าต่อการมาเยือนที่นี่คือ งานศิลปะระดับโลกอันล้ำค่าที่ถูกยืมมาจากฝรั่งเศส ไม่ว่าจะเป็น งานศิลปะ จิตรกรรม ประติมากรรม และงานประดิษฐ์ ซึ่งหลายๆ ชิ้นไม่สามารถปประเมินมูลค่าได้ เช่นงานของ Vincent van Gogh, Leonardo da Vinci และคนอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมสิ่งล้ำค่าทางประวัติศาสตร์อีกหลากหลายยุค และนิทรรศการหมุนเวียน ที่จัดขึ้นตลอดทั้งปี

สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติม การเข้าเยี่ยมชม มิวเซียมได้ที่ > https://www.louvreabudhabi.ae/

.

The new project of Saadiyat Island

ไม่ใช่แค่เพียง ลูฟวร์ อาบูดาบี เท่านั้นที่จะเป็นตัวเชื่อมอารยธรรมเข้าด้วยกัน แต่โครงการบนเกาะ Saadiyat (ที่แปลว่า ความสุข) ยังมีอภิมหาโปรเจคส์ระดับโลกอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น

Guggenheim Abu Dhabi มิวเซียมระดับโลกที่จะถูกออกแบบโดย Frank Gehry

.

Zayed National Museum มิวเซียมผู้ก่อตั้งประเทศ ที่ถูกออกแบบโดย Norman, Foster + Partners

.

Performing Arts Centre ที่ถูกออกแบบโดย Zaha Hadid

.

Maritime Museum มิวเซียมการเดินเรือ ที่ถูกออกแบบโดย Tadao Ando

.

เรียกได้ว่า แค่เห็นรายชื่อสถาปนิกแล้ว ก็คือ ขนลุก ในความน่าสนใจ ความน่าไปของเกาะนี้สุดๆ แล้ว!! และนอกจาก มิวเซียม แล้ว บนเกาะนี้ยังมี คอนโด โรงแรม มหาวิทยาลัย และ วิลล่า ที่ไว้รองรับทุกคนจากทั่วโลก

.

ทั้งหมดที่กล่าวมานั้น คือ แผนการพัฒนาเมืองของอาบูดาบี ที่เนรมิตทุกอย่างขึ้นมาจากทะเลทราย แต่จุดเด่นที่สำคัญคือ การสร้างวัฒนธรรม (Saadiyat Cultural District) ระหว่างโลกตะวันตก และ ตะวันออก ให้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน

และเราเชื่อว่า อาบูดาบี จะกลายเป็นจุดหมายปลายทางใหม่ ของนักเดินทาง คนรักมิวเซียม ประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม แน่นอน

.

Reference

• https://www.louvreabudhabi.ae/
• https://edition.cnn.com/interactive/2017/12/style/louvre-abu-dhabi/
• http://www.elledecorationthailand.com/Life/louvre-abu-dabi/
• https://www.youtube.com/watch?v=RCzD-6DxBSU
• https://thestandard.co/louvre-abudhabi/
• https://www.buildernews.in.th/archdesign-cate/architecture/21725
• https://powermag.kingpower.com/th/power-mag-th/power-lifestyle2-th/destination-th/louvre-abu-dhabi-when-art-meets-sand-and-sky-th/
• https://en.wikipedia.org/wiki/Louvre_Abu_Dhabi
• https://en.wikipedia.org/wiki/Saadiyat_Island