Guggenheim Museum Bilbao : SS Museum EP.1 พาเที่ยวมิวเซียม Guggenheim สเปน
สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับสู่ช่วงใหม่ของ StyleStay Museum (SS Museum) ที่เรากำลังทดลองเขียนถึงแง่มุมต่างๆ เรื่องดีไซน์ x สถานที่ มากขึ้น หลังจากที่ในปี 2020 ที่ผ่านมา เราข้ามมาสู่โซนของ Brand และ ของใช้ในการตกแต่งบ้าน และมาในปีนี้ เราก้าวเข้าสู่การเล่าเรื่อง Design Museum กันบ้างดีกว่า 😀
โดย EP.1 ตอนแรกเราจะขอเล่าถึง มิวเซียมที่เราเคยเดินทางไป สวยงาม และค่อนข้างไม่ซ้ำใคร อย่าง Guggenheim Museum ที่สายดีไซน์น่าจะพอคุ้นกัน และเราขอนับให้มิวเซียมนี้เป็น 1 ในเหตุผลการเดินทางไปสเปนเลยก็ว่าได้
แต่ไม่ใช่แค่เล่าเรื่องเที่ยว แต่บทความนี้จะเจาะไปยังเรื่องราวของ สถาปัตยกรรม แบรนด์ ดีไซน์ และศิลปินคนดัง เรื่องราวเบื้องหลังต่างๆ ที่เราอยากเล่ากันค่ะ จะเป็นอย่างไร ตามอ่านกันเลย!
หากเพื่อนๆ คนไหนชอบสายดีไซน์ แบรนด์ โรงแรมสวยจากทั่วโลก ไปตามอ่านเพิ่มเติมได้เลย > คลิก
Basic Guideline
Museo Guggenheim Bilbao / พิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์ บิลบาโอ คือ พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยและสมัยใหม่ (Contemporary Art Museum) ที่มีจุดเด่นคือ โครงสร้างสถาปัตยกรรมที่สุดอลังการ แปลกตามากกว่าตึกทั่วๆ ไปในเมือง Bilbao ที่ถือเป็น 1 ในพิพิธภัณฑ์ของ Solomon R. Guggenheim Foundation ที่ปัจจุบันสร้างเศรษฐกิจให้แก่เมือง Bilbao และได้รับความนิยมจนมีคนเดินทางมาเยี่ยมกว่า 1 ล้านคนจากทั่วโลก
อะไรทำให้พิพิธภัณฑ์นี้ได้รับการยอมรับ และกลายเป็น Iconic ทั่วโลกขนาดนี้ ? เรามาสืบเรื่องราวของที่นี่กัน
.
The Story of Guggenheim
ก่อนจะเล่าไปถึง Guggenheim ที่สเปน ขอเริ่มกันที่เรื่องของ Guggenheim กันก่อน เพราะจริงๆ แล้ว Guggenheim Museum มี 4 แห่งทั่วโลก ได้แก่ New York, Venice, Abu Dhabi และ สุดท้ายที่ Bilbao, Spain โดยทั้ง 4 แห่งใช้ชื่อ Guggenheim เป็นส่วนหนึ่งทั้งหมด
.
พิพิธภัณฑ์ทั้ง 4 อยู่ภายใต้การดูแลของมูลนิธิ Solomon R. Guggenheim Foundation ที่เป็นมูลนิธิที่ดูแลพิพิธภัณฑ์และลงทุนกับสถาปัตยกรรม งานศิลปะทั้งหมดทั่วโลก ที่มีต้นกำเนิดสนุกเหมือนกัน นั่นคือ เรื่องเริ่มต้นมาจาก มหาเศรษฐีคนหนึ่งชื่อว่า บอร์นารด์ กุกเกนไฮม์ (Bernard Guggenheim) ที่อาชีพแรกเป็นนายธนาคาร แต่ได้สร้างธุรกิจจนประสบความสำเร็จ ร่ำรวยจากการได้สร้างลิฟท์ขึ้นไปหอไอเฟล (Eiffel Tower) นั่นเอง
พอนายบอร์นารด์ร่ำรวยมากขึ้น ก็เริ่มใช้ชีวิตแบบคนรวย แต่น่าเสียดายสุดท้ายเค้าเสียชีวิตไปกับเหตุการณ์ Titanic ที่เราคุ้นเคยกัน ทำให้สมบัติทั้งหมดตกเป็นของลูกสาว เพ็กกี้ กุกเกนไฮม์ (Peggy Guggenheim) ได้มรดกอีกส่วนหนึ่งจากลุงคือโซโลมอน อาร์. กุกเกนไฮม์ (Solomon R. Guggenheim)
.
หลังจากที่ เพ็กกี้ ได้สมบัติมาเยอะมาก และเธอเป็นคนที่ชื่นชอบศิลปะอยู่แล้ว ในปี 1898 เธอได้เดินทางท่องเที่ยวไปทั่วโลก และ ได้รู้จักกับศิลปินชื่อดังอย่าง กงสต็องแตง บรองกูซี (Constantin Brancusi) ฌอง ก็อกโต (Jean Cocteau) มาร์เซล ดูชองป์ (Marcel Duchamp) ที่ชวนเธอให้เข้าสู่วงการสะสมงานศิลปะ
.
ทำให้เพ็กกี้มีงานศิลปะครอบครองไว้เยอะมาก เช่น งานของ ปาโบล ปิกัสโซ (Pablo Picasso), แจ็คสัน พอลล็อค (Jackson Pollock), มักซ์ เอิร์นสต์ (Max Ernst), มาร์เซล ดูชองป์ (Marcel Duchamp) และอื่นๆ อีกมากมาย ที่เรียกว่ามูลค่าตอนนี้ทะลุฟ้าไปไกลมากแล้ว
พอมีงานเยอะ ก็เริ่มไม่มีที่เก็บ และอยากหาคนดูแลอย่างเป็นกิจลักษณะหากเธอเสียชีวิตไป เธอจึงเลือก Harry Gugenheim ที่เป็นผู้บริหารของมูลนิธิ และ สาขาที่นิวยอร์ก มาบริหารองค์กรแทน และมูลนิธิ Solomon R. Guggenheim Foundation ที่ได้ถูกก่อตั้งตั้งแต่ปี 1937 ในยุคที่ลุงของเธอยังมีชีวิตอยู่นั่นเอง
.
นี่คือเรื่องราวและที่มาของแบรนด์ Guggenheim ทั้งหมดที่เราอยากเล่า และในตอนนี้ เราจะพาไปรู้จักกับ Museum แรกที่เราเลือกมานั่นคือ Guggenheim Museum Bilbao พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในสเปน นั่นเอง
The Story of Bilbao
ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปชมความสวยงามของมิวเซียม เราอยากเล่ากันต่อถึงที่มาว่า ทำไมแบรนด์ดังอย่าง Guggenheim ถึงมาตั้งในเมืองไม่ค่อยเป็นที่รู้จักอย่าง Bilbao
.
Bilbao (บิลเบา) เมืองตอนบนของประเทศสเปน (ใช้เวลาเดินทางกว่า 5 ชม.โดยรถไฟจาก Madrid) ในอดีตเมืองนี้เคยเป็นศูนย์กลางทางการค้า ส่งออกทั้งเหล็กและแร่ ถึงเศรษฐกิจภาพรวมเมืองจะดี ทีมฟุตบอลจะเป็นที่รู้จักจนมีสเตเดียมฟุตบอลใจกลางเมือง แต่เมืองไม่ได้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และถ้าใครมีโอกาสไปสเปนก็แทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีเมืองนี้อยู่
.
เรื่องนี้ทำให้นายกเทศมนตรีของเมืองตัดสินใจว่า เราต้องกู้หน้าเมือง และ สร้างเมืองให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คนอยากมาเยี่ยมเมืองเราให้ได้ แล้วอะไรคือแม่เหล็กที่จะดึงดูดคนให้มาเมืองเราดีล่ะ ?
คำตอบนั่นคือ “แหล่งท่องเที่ยวทางศิลปะ” การดึงผู้คนจากทั่วโลกด้วยเอกลักษณ์ โชว์รสนิยม และสร้าง Landmark แห่งใหม่ของเมืองคือวิธีการที่เมืองนี้เลือกใช้ ดังนั้นในช่วงยุค 1990s เมืองจึงได้ติดต่อกับ ศิลปิน นักออกแบบ และสถาปนิกระดับโลก เพื่อเปิดตัว พิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์ (Guggenheim Museum) ในปี ค.ศ.1997 ที่ใช้เวลาก่อสร้างตั้งแต่ปี 1993 (รวมเวลา 4 ปี)
.
ในวันที่ 18 ตุลาคม ค.ศ. 1997 พิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์ (Guggenheim Museum) ก็ได้เปิดตัวขึ้นท่ามกลางความยินดีของชาวเมือง พร้อมตัวอาคารที่แปลกตา และ ล้ำสมัยมากในยุคนั้น
.
The Architecture
ถ้าถามว่ามิวเซียมนี้อะไรเป็นจุดเด่น ทุกคนจะตอบได้เลยว่า ตัวอาคาร เพราะโจทย์ที่สำคัญที่สุดของมิวเซียมนี้คือ สร้างภาพที่แปลกตาและดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกให้มาที่นี่
งานรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ จึงต้องใช้คนระดับโลกด้วยเช่นกัน ตัวอาคารของมิวเซียมนี้ถูกออกแบบโดย Frank Gehry สถาปนิกระดับโลกชาวอเมริกา-แคนนาดา ที่ถือว่างานคุณพ่อแกเป็นเอกลักษณ์จนมีแฟนๆ ติดตามกันทั่วโลก
.
รูปทรงของอาคารนี้หลายคนบอกว่าคล้ายเรือ ด้วยเส้นโค้งและตัดกับภาพที่ตั้งของมิวเซียมที่ติดแม่น้ำ Nervion คล้ายกับเรือที่แล่นอยู่บนน้ำ นั่นเอง แต่นอกจากรูปทรงที่แปลกตา และเอกลักษณ์โดดเด่นมากแล้ว อีกสิ่งที่อยากเน้นคือ วัสดุ
.
Frank Gehry ถือเป็นสถาปนิกที่ออกแบบได้ล้ำสมัย ที่มาพร้อมลายเส้นยึกยือ (คนสร้างตามได้คือเก่งมาก) นำหน้าแนวคิดคนทั่วโลกเสมอ และวัสดุที่เค้าใช้คือ เหล็ก หินทรายสีอ่อนที่หุ้มด้วยแผ่นโลหะไทเทเนียม ทำให้เมื่อแสงอาทิตย์สาดส่องลงมา ตัวอาคารในแต่ละวันจะเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ ยิ่งดูยิ่งเพลิน ที่สำคัญยังทนแดด ทนฝน และเป็นเอกลักษณ์มากที่สุด
.
เราชอบคำพูดที่เจ๋งของ Frank Gehry ที่ว่า การก่อสร้างที่นี่มีมุมโค้งเว้ามากมาย แต่เค้ากลับพูดว่า “The randomness of the curves are designed to catch the light” ซึ่งหลังจากที่ผลงานสร้างเสร็จออกมาก็พิสูจน์ให้เราเห็นจริงๆ ว่า ที่นี่สวยงามทุกมุม และมีเสน่ห์ชวนหลงใหลที่สุด
.
สถาปัตยกรรมร่วมสมัยของที่นี่สวยงามเสียจนได้รับรางวัล World Architecture Survey ในปี ค.ศ. 2010 อีกด้วยนะ
*วัสดุและทรงตึกแนวนี้ อีกตึกที่เป็น Iconic ของโลกคือ Walt Disney Concert Hall ที่ออกแบบโดย Frank Gehry เช่นเดียวกัน
The Interior & Arts
นอกจากภาพนอกมิวเซียมที่สวยงามแล้ว ด้านในมิวเซียมยังมีงานศิลปะจากศิลปินชื่อดังทั่วโลกหมุนเวียนกันไปตลอด 3 ชั้นของมิวเซียม แต่อีกสิ่งที่ห้ามพลาดคือ ร้านอาหารมิชลินสตาร์ 1 ดาวชื่อ Nerua ที่เน้นใช้พืชพันธุ์ท้องถิ่นปรุงอย่างประณีต
.
.
และงานศิลปะที่หมุนเวียนตลอด ที่เราอยากยกตัวไฮไลท์มาเล่านั่นคือ
The Matter of Time (1994–2005)
ผลงานของ Richard Serra ที่เป็นกำแพงเหล็กสูงใหญ่ จำนวน 8 ชิ้น ถูกจัดวางเป็นตัว S และวงกลมซ้อนกันคล้ายเขาวงกต ซึ่งเราจะได้เดินอยู่ท่ามกลางผลงานทั้ง 8 ชิ้น จากจุดนึงไปสู่อีกจุดนึง ให้ความรู้สึกเหมือนเดินทางผ่านการเวลา ซึ่งของจริงเป็นเช่นนั้น สนุกสนาน ลึกลึบ ที่สำคัญแนะนำให้ลองเดินเองก่อน และขึ้นไปดูมุมด้านบนจะเห็นความเท่ของชิ้นงานที่สุด
.
Puppy (1992)
ที่นี่มีอีกชื่อเล่นว่า “House of the Puppy” เพราะผลงานน้องหมาของศิลปินดัง Jeff Koons ศิลปิน Pop-Art สุดดังเจ้าของงาน Balloon Dog ที่รอทักทายทุกคนด้วยรูปปั้นหมาน้อยที่ห่อหุ้มด้วยดอกไม้กว่า 40,000 ดอก ที่มาถ่ายรูปยังไงก็น่ารัก
.
Maman (1999)
แมงมุมตัวสูงโย่งกว่า 30 ฟุตผลงานของ Louise Bourgeois ศิลปินชาวฝรั่งเศส ที่ยืนอุ้มไข่เหล็กเป็นอาหารตาด้านนอก ที่ถือว่าเป็นจุดถ่ายภาพระดับโลกอีกเช่นเดียวกัน (แมงมุม Maman อีกตัวอยู่ที่ Roppingi Hills ที่โตเกียวนั่นเอง)
City of Arts
จากที่เล่ามาทั้งหมด เราคิดว่าใครหลายคนเริ่มอยากปักหมุดเจ้า Guggenheim Museum Bilbao ไว้แล้ว เมื่อมีโอกาสได้ไปสเปน แต่เราขอกลับมาที่โจทย์เดิม ว่าจำได้ไหมว่าเกิดอะไรกับเมือง Bilbao บ้าง
.
ปัจจุบัน Guggenheim Museum Bilbao ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก คนรู้จักเมืองมากขึ้น และมีคนเดินทางมาที่นี่กว่า 1 ล้านคนจากทั่วโลก พร้อมทั้งยังกระตุ้นเศรษฐกิจของเมืองให้ก้าวหน้ามากขึ้นไปอีก
นี่คือเรื่องราวของ มิวเซียมจากทั่วโลกที่เราอยากเล่า เราจะพาคุณไปรู้จักกับงานศิลปะ สถาปัตยกรรมทั่วโลกผ่านเรื่องราวของเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงของเมือง ที่รับรองว่า EP หน้าก็สนุกจนคุณต้องปักหมุดอีกแน่นอน
- https://www.guggenheim.org/about-us
- https://bit.ly/3pZy00f
- https://www.talontiew.com/guggenheim-museum-bilbao/
- https://en.wikipedia.org/wiki/Guggenheim_Museum_Bilbao
- http://www.elledecorationthailand.com/blog/the-artventure-in-bilbao/
- http://thethailanders.com/guggenheim-museum-bilbao/
- https://www.guggenheim-bilbao.eus/en
- https://www.guggenheim-bilbao.eus/en/the-building/the-construction
Related posts:
- Solomon R. Guggenheim : SS Museum EP.2 พาเที่ยวมิวเซียม Solomon R. Guggenheim นิวยอร์ก
- เที่ยวมิวเซียม Design museum 2021 – TOP 10 มิวเซียมดีไซน์ ระดับโลก ประจำปี 2021
- Casa Milà : SS Museum EP.5 งานออกแบบบ้านที่เรียบที่สุดของเกาดี้แห่งบาร์เซโลน่า
- Cup Noodles Museum : SS Museum EP.8 ลิ้มรสมิวเซียมบะหมี่ถ้วยสุดครีเอท ที่โยโกฮาม่า