สำนักพิมพ์ดีไซน์ – รวม 3 Design book publisher ที่สร้างหนังสือดีมานับไม่ถ้วน
สำนักพิมพ์ดีไซน์— ในที่สุด เราก็ขยายจักรวาลของเราไปอีก เพราะถ้านับว่า การแต่งบ้านให้สวย ไม่เพียงแค่เฟอร์นิเจอร์ ของแต่งบ้านต่างๆ เท่านั้น แต่การเลือกซื้อ หนังสือ จะเอาไว้อ่าน หรือ ตั้งโชว์ ก็ถือเป็นหนึ่งสิ่งที่บอกรสนิยมเจ้าของบ้านเช่นกัน วันนี้เราจึงอยากพามารู้จักกับ สำนักพิมพ์ ที่ตั้งแต่สมัยเรียนจนถึงทุกวันนี้ ก็ยังคงผลิตงานคุณภาพ ประเด็นดี เอาไว้เสมอ มีสำนักพิมพ์ไหนบ้าง ที่เราเชื่อว่าหลายคนน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตาแน่นอน ไปดูกัน!
.
.
หากเพื่อนๆ สนใจเรื่องการแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ > คลิก
หากสนใจเรื่องแบรนด์สวย จากทั่วโลก > คลิก
.
Phaidon
มาเริ่มกันที่ สำนักพิมพ์ดีไซน์ แรก Phaidon เราคุ้นหน้าคุ้นตากับ Logo สไตล์ Serif กันอยู่แล้ว สำนักพิมพ์นี้ค่อนข้าง Traditional และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกมานาน จะเด่นดังในหมวดหนังสือ ศิลปะ สถาปัตยกรรม ดีไซน์ แฟชัน การถ่ายภาพ รวมไปถึง การทำอาหาร การท่องเที่ยว ก็ครอบคลุมทั้งหมด
.
.
Phaidon ถูกก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1923 ที่ออสเตรียโดยคุณ Ludwig Goldscheider, Dr. Béla Horovitz และ Frederick “Fritz” Ungar. ปัจจุบันแบรนด์มีอายุถึง 100 ปีแล้ว และย้ายฐานมาอยู่ที่ London และ Newyork เรียบร้อย — ส่วนเรื่องความเทพ สำนักพิมพ์หลักร้อยปีนี้ ผลิตหนังสือออกมากว่า 1,500 เรื่อง และหนังสือถูกวางขายอยู่ทั่วโลกหลายร้อยประเทศ ถ้าเป็นคนที่สนใจ ย่อมเคยเห็นชื่อสำนักพิมพ์นี้แน่นอน
.
.
ที่มาของชื่อสำนักพิมพ์มาจาก Phaedo of Elis หรือมาจาก Phaedon (อ่านว่าเฟโด) เป็นนักปรัชญาชาวกรีก ที่ก่อตั้งโรงเรียน Socrates ด้านปรัชญาที่เมือง Elis นั่นเอง และจากชื่อของเค้า จึงกลายมาเป็น Monogram ของสำนักพิมพ์ที่เป็นตัว Φ (ตัว Phi ที่เป็นตัวแทนของ The golden ratio สัดส่วนทองคำ ที่ถือว่าเป็นสัดส่วนที่สวยที่สุดอีกด้วย) เพราะมีที่มามาจากชื่อ Φαίδων – Phaedo นั่นเอง
.
.
หลักจากการก่อตั้งสำนักพิมพ์และได้รับความนิยมมากทั่วแถบยุโรป แต่แล้วทุกอย่างก็ถูกย้ายมาอยู่ที่อังกฤษ เพราะสงครามโลก และมีการเปลี่ยนมือเจ้าของไปหลายรอบ (เช่นเจ้าของตาย ส่งให้ลูกหลาน ซื้อกิจการกันต่อ วนไปมา) จนสุดท้ายแล้ว ในปี 1993 ที่อยู่ในยุคของ คุณ Schlagman ได้ทำการจ้าง ดีไซเนอร์หลักคือ Alan Fletcher มา และก็ไปจ้างดีไซเนอร์ชาวเยอรมัน Julia Hasting ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้สำนักพิมพ์ เพราะอยากโฟกัสด้าน Book design และทำให้หนังสือดีไซน์กลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้ และมีคุณค่ามากกว่าเดิม
.
.
ทั้งหมดจึงกลายเป็นที่มาของสำนักพิมพ์ Phaidon และยังคงผลิตหนังสือในแวดวงดีไซน์ มาจนทุกวันนี้ ที่เรียกได้ว่าแต่ละเล่มคือ ระดับตำนาน ที่เราจะยกตัวอย่างมาเช่น ด้านสถาปัตยกรรม กับ Tadao Ando, Le Corbusier, Mies van der Rohe, Alvar Aalto และสถาปนิกในตำนานอีกเยอะมาก!
.
.
ด้านกราฟิกดีไซน์ก็ไม่แพ้กัน เพราะมีการทำหนังสือร่วมกับ Dieter Rams, Ettore Sottsass, Stefan Sagmeister, Naoto Fukasawa, nendo และดีไซเนอร์ชื่อดังอีกเยอะมาก (คืออยากได้ทุกเล่มจ้ะ)
.
.
และสุดท้ายที่ทุกคนคุ้นเคย และเห็นบ่อยคือ การทำ Wallpaper* City Guides หนังสือเล่มเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยลิสต์สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร คาเฟ่ของเมืองดังจากทั่วโลก ที่ทำร่วมกับนิตยสาร Wallpaper* นั่นเอง
.
.
Gestalten
ต่อมากันที่สำนักพิมพ์สุดโมเดิร์น Gestalten (อ่านว่า เกสตัลต์เทน แปลว่า ออกแบบ ในภาษาเยอรมัน) หรือชื่อเต็มๆ คือ Die Gestalten Verlag (Verlag แปลว่า สำนักพิมพ์) ที่เป็นสำนักพิมพ์ที่เน้นด้าน ดีไซน์ ภาพประกอบ สถาปัตยกรรม การถ่ายภาพ การออกแบบ Typography และ Contemporary art
.
.
สำนักพิมพ์ Gestalten ก่อตั้งมาตั้งแต่ 1995 ที่เมือง Berlin ประเทศเยอรมัน โดยเพื่อนซี้ 3 คน คือ Robert Klanten , Markus Hollmann-Loges และ Andreas Peyerl โดยเริ่มจากการทำหนังสือเล็กๆ ในหมวด Techno Arts และดันไปถูกตาต้องใจคนส่วนใหญ่ ทำให้ขายดิบขายดีมาก จน Klanten (หนึ่งในสามคน) รู้สึกว่าสามารถทำสิ่งนี้เป็นธุรกิจได้
.
.
จากในช่วงปีแรกที่ก่อตั้งสำนักพิมพ์ ปีนึงพิมพ์หนังสือแค่ 4 เรื่องเท่านั้น แต่ก็ขยายใหญ่ไปเรื่อยๆ เมื่อได้รับการตอบรับที่ดีจากฝั่งยุโรป และ ญี่ปุ่น และทุกวันนี้สำนักพิมพ์ Gestalten ก็กลายเป็นสำนักพิมพ์ชื่อดังด้านดีไซน์ Graphic Design ระดับโลกไปอีกหนึ่งเจ้า
.
.
และเป็นที่รู้จักจากการทำกับ Monocle นั่นเอง ซึ่งใครที่ชอบสะสมหนังสืออยู่แล้ว ต้องคุ้นแน่นอน
.
.
TASCHEN
สำนักพิมพ์สุดท้าย ที่เราคัดมาว่าชอบมากคือ TASCHEN ที่ก่อตั้งในปี 1980 โดย Benedikt Taschen (ตามนามสกุลนั่นเอง) ที่เมือง Cologne ประเทศเยอรมันอีกเช่นกัน (ของยุโรปเค้าฟื้นฟูวัฒนธรรมดีมาก)
.
.
แต่ในช่วงแรก สำนักพิมพ์ไม่ได้ดีไซน์อย่างทุกวันนี้ แต่ทำพวก Comics ภาพอีโรติก ไปจนถึง สาย Queer Art, Pornography ที่เป็น Adult magazines เป็นส่วนใหญ่ และมีการปรับเปลี่ยนมาเป็นสาย ถ่ายภาพ งานวาด ดีไซน์ แฟชัน โฆษณา หนัง และ สถาปัตยกรรม อย่างทุกวันนี้
.
.
หนังสือที่เรียกว่า พา Taschen เปลี่ยนไปคือ Basic Art series ที่เป็นผลงานของศิลปินชื่อดังในตำนานอย่าง Salvador Dalí ที่ทุกวันนี้หนังสือเล่มนี้ถูกแปลไป 30 ภาษาทั่วโลก และยังมีภาคขยายออกไปมากมาย เช่น Basic Architecture เป็นต้น เรียกว่านักเรียนดีไซน์ทุกคนต้องดูเอาไว้เป็นคัมภีร์ในการเรียนก็ว่าได้
.
.
และอีกสิ่งที่ทำให้ที่นี่แตกต่างจากที่อื่นๆ คือการออกหนังสือหัวใหม่ อย่าง SUMO ที่ตั้งตนเป็น Luxury book series ภายใต้การทำงานของ Helmut Newton ช่างภาพชื่อดังชาวเยอรมัน-ออสเตรเลีย ที่ราคาต่อเล่มคือสูงมาก 1,500 USD ประมาณ 50,000 บาท! แต่ขายดี มียอดพิมพ์ถึง 10,000 เล่ม และที่สำคัญคือเป็น Limited Edition !! (รวยสุด) มากกว่านั้นคือ SUMO เล่มแรก ปัจจุบันมียอดประมูลถึง 304,000 USD ประมาณ 10 ล้านบาท ! นี่มันเป็นงานศิลปะชิ้นเอกแล้ว ไม่ใช่หนังสือ
.
.
นอกจากนั้น SUMO ยังร่วมงานกับช่างภาพคนดังจากทั่วโลกมากมาย เช่น Nobuyoshi Araki, Peter Beard, David Hockney, David LaChapelle, Sebastião Salgado, Annie Leibovitz และข้ามไปถึงศิลปินชื่อดังอย่าง the Rolling Stones อีกด้วย!
.
.
ทุกวันนี้ TASCHEN ยังคงพิมพ์หนังสือด้านดีไซน์อย่างหลากหลาย และกลายเป็นสำนักพิมพ์อันดับต้นๆ ของโลกที่มียอดจัดจำหน่ายสูงมากเช่นกัน
.
.
จากสำนักพิมพ์ที่เราชอบทั้งหมด 3 สำนักพิมพ์นั้น เราจะได้รู้ที่มาที่ไปที่แตกต่างกัน และแต่ละแบรนด์ก็มีวิธีการทำงาน การจัดการที่แตกต่าง แต่ทั้งหมดเพื่อเป้าหมายเดียวกันคือ การพิมพ์ที่ดี เนื้อหาที่ดี ภาพสวย และเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน
.
เพราะเราเชื่อว่า การได้พิมพ์อะไรออกมาแล้ว ต้องเป็นสิ่งที่มีคุณค่า และ หนังสือไม่มีวันตาย 😀
.
.