SOHO House แบรนด์ Clubhouse สุด Exclusive ในแวดวงครีเอทีฟ มีเงินอย่างเดียวพักไม่ได้
SOHO House แบรนด์ — เราอาจจะไม่ได้คุ้นแบรนด์นี้กันมาก แต่ระดับอินเตอร์แบรนด์นี้ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เหล่าครีเอทีฟ ดีไซเนอร์ ให้ความสนใจและมีความพิเศษเพราะ Exclusive ที่สุดผ่านสมาชิกเท่านั้น แล้วอะไรทำให้ SOHO House ถูกพูดถึงแม้กระทั่งในนิตยสาร B Magazine และมีผู้เข้าพักไม่ขาดสาย วันนี้ StyleStay จะพาไปทำความรู้จักแบรนด์นี้ด้วยกัน
.
.
A home for creative people to come together.
SOHO House คือ Private Club จากประเทศ อังกฤษ ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1995 ในปัจจุบันมีทั้งหมด 27 สาขากระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลกกว่า 10 ประเทศ ที่รอคอยให้สมาชิกของคลับเท่านั้นที่จะเข้ามาใช้บริการได้ (ถ้านึกภาพไม่ออกก็จะเหมือน Application CLUBHOUSE ที่จ้องมีการเชิญและมีการคัดกรองคนที่จะเป็นสมาชิกเข้ามาได้) ซึ่งเกณฑ์ในการคัดเลือกของ SOHO House คือ การทำงานในสายอาร์ต หรือ Creative และมีการยื่นเอกสาร ยืนยันตัวตนให้ทางแบรนด์เช็คคุณสมบัติ — แค่นี้ที่นี่ก็เป็น Super Private Club ที่แท้จริงบนโลกใบนี้แล้ว
.
Soho House is a place for our diverse membership to connect, grow, have fun, and make an impact. From the beginning, and throughout our 25-year history, our members have always been at the heart of everything we do
.
1995: 40 Greek Street, Soho
สาขาแรกของแบรนด์เริ่มต้นที่เมือง London ประเทศอังกฤษ ในย่าน SOHO (ย่านที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและมีย่านแบบนี้ทั่วโลกไม่ว่าจะเป็น ลอนดอน นิวยอร์ก ความพิเศษคือ มีการรวมตัวของหลายเชื้อชาติ ทั้งในส่วนของร้านค้า ร้านอาหารที่เข้ามาจับจองพื้นที่เพื่อประกอบธุรกิจ ที่มีลักษณะเป็น Shophouse ด้านล่างเป็นร้านค้า ด้านบนเป็นพื้นที่อยู่อาศัย) ที่ถนน Greek แบรนด์ถูกก่อตั้งโดย Nick Jones ที่ทำมีร้านอาหาร Cafe Boheme ด้านล่างของตึกแถว และเปลี่ยนให้ด้านบนเป็นพื้นที่พักอาศัย ที่อนุญาตให้เฉพาะสมาชิกเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น ศิลปินท้องถิ่น นักแสดง หรือใครก็ตามที่สนใจด้านศิลปะและรู้จักกับร้านอาหารของเค้า
.
.
ความเจ๋งของแบรนด์นี้คือ Logo Design ที่เป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสและถูกแบ่งเป็นช่องๆ เพราะต้องการสื่อถือการจัดการพื้นที่ในช่วงแรก เพราะในยุคนั้นมีทั้งหมด 3 ชั้นและแต่ละชั้นมี 3 ห้องที่เชื่อมต่อกันนั่นเอง
.
.
1998: Babington House, and the launch of Cowshed
หลักจากประสบความสำเร็จและเริ่มเป็นที่พูดถึงในโมเดลแล้ว SOHO House ยังขยายต่อไปในอีก 3 ปีให้หลังที่เมืองชนบทของอังกฤษ ในชื่อ “Babington House” เพื่อต้องการให้นักออกแบบ เหล่าศิลปิน ได้มีเวลาอยู่กับธรรมชาติและสร้างสรรค์งานได้ดีมากขึ้น พร้อมกับที่นี่ยังมีสปาของแบรนด์ “Cowshed spa” อีกด้วย
.
.
2002: Electric House, Notting Hill
การเติบโตยังไม่จบ เพราะสาขาที่สอง กลับมาที่ลอนดอนอีกครั้ง ในย่านที่เป็นที่รักของทุกคน (และนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก) นั่นคือ Notting Hill ที่ความพิเศษของที่นี่คือ อยู่ใกล้กับ Electric Cinema โรงหนังบนดาดฟ้าที่เก่าแก่ที่สุด ซึ่งทำให้ทุกคนเริ่มคุ้นกับภาพ Rooftop Cinema กันแล้วใช่ไหม 😀
.
.
2003: Soho House New York
การเติบโตอย่างไม่หยุดยั้งด้วยไอเดียที่แปลกใหม่ แหวกแนวของแบรนด์ ทำให้ไม่หยุดที่แค่ประเทศอังกฤษเท่านั้น แต่ได้ข้ามน้ำข้ามทะเลมายัง New York มหานครที่รวบรวมความหลากหลายไว้จากทั่วโลกแล้ว
.
ในปี 2003 US House ถูกเปิดขึ้นที่ย่าน Meatpacking District ประกอบไปด้วยพื้นที่ 6 ชั้นที่ดัดแปลงจาก Warehouse (โกดังเก็บของ) และความเจ๋งของสาขานี้คือ มี Rooftop Pool ที่ให้คุณได้พักผ่อน หาแรงบันดาลใจใหม่ๆ จากการว่ายน้ำและชมวิวนิวยอร์กไปด้วยทีเดียว
.
House of creative living.
ถ้าจะให้เล่าประวัติไปเรื่อยๆ แบรนด์ก็จะโด่งดังขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มขยายออกไปเปิดตามเมืองใหญ่ทั่วโลก จนมีกว่า 27 แห่งในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็น Amsterdam, Berlin, Greek, Barcelona, Hongkong, Mumbai, LA และอื่นๆ อีกมากมาย ที่เรียกได้ว่ากลายเป็น Destination ของสายครีเอทีฟทั่วโลก
.
.
Creative Private Club
นอกจากที่พักแล้ว แบรนด์ยังมีร้านอาหาร, Co-Working space, Event Space, Workshop, Spa ไปจนถึงล่าสุดคือ มีแบรนด์ Furniture วางจำหน่ายแล้วในชื่อ SOHOHome ที่เอาใจคนรักงานดีไซน์ไปอีก เรียกว่าครบถ้วนทุกกระบวนการพักผ่อน สร้างสรรค์ ที่แบรนด์มอบให้จริง
>> เพื่อนๆ สามารถไปดู SOHOHome ได้ที่ https://www.sohohome.com/us/
.
.
ShopHouse
เราชอบไอเดีย Shophouse ถ้าเรียกแบบเราเข้าใจก็คือ ตึกแถว ที่เริ่มมาจากย่าน SOHO นั่นแหละ พื้นที่บ้านชั้นล่าง เอามาทำธุรกิจ พื้นที่ชั้นบนเป็นที่พักอาศัย และ แบรนด์ก็ทำได้ดี จนปัจจุบันมีการขยายออกมาขายของเรียบร้อย (สาวกก็ต้องซื้อสิค้าบ) ไม่ว่าจะเป็น
- SOHO Home – แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ ของแต่งบ้าน ผ้าปูเตียงยันโครงเตียง
- Cowshed – แบรนด์สปา ที่เน้นขายเครื่องหอม ครีม ผลิตภัณฑ์ Aroma ทั้งหมด > https://www.cowshed.com/
- The Store X – Platform รวมผลงานของครีเอทีฟ ดีไซน์ แฟชัน ดนตรี เอาไว้ที่เดียว > https://www.thestorex.com/
.
How to be a member ?
รู้จักแบรนด์ไปแล้ว ตอนนี้อยากเป็นสมาชิกซะแล้วสิ แต่การสมัครสมาชิกของที่นี่ไม่ง่ายเลย เพราะต้องยื่นใบสมัคร พร้อมเช็คคุณสมบัติ พร้อมกับ ค่าสมัครจะอยู่ที่ประมาณ USD 2085.64 / ปี พร้อมสิทธิพิเศษต่างๆ มากมาย แต่ก็แลกมากับระเบียบที่แสนเข้มงวดนั่นคือ
- ห้ามถ่ายรูป ถ่ายคลิปวีดีโอ และห้ามคุยโทรศัพท์ในขณะที่อยู่ใน Club House โดยเด็ดขาด ถ้ามีธุระจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์ สามารถใช้ได้ในพื้นที่ๆจัดให้เท่านั้น
- ถ้าต้องการดูหนังฟังเพลง ต้องใช้หูฟังเท่านั้น ห้ามเปิดเสียงรบกวนผู้อื่น
- ถ้าใครทำผิดกฏ ก็สามารถถูกยกเลิกการเป็นสมาชิกได้
- **ปัจจุบันหากใครสนใจเข้าพักสามารถจองได้โดยไม่ต้องเป็นสมาชิกได้แล้วที่ Website เลย
> สามารถสมัครสมาชิกพร้อมยื่นเอกสารได้ที่ https://www.sohohouse.com/en-us/membership
.
.
House for Creative Soul
ไม่ใช่แค่เพียงการพัฒนาโรงแรมมาเพื่อสร้างความสะดวกสบายเท่านั้น แต่เรามองว่าแบรนด์นี้เหนือกว่านั้น และกำลังตีความรูปแบบใหม่ในการใช้ชีวิตสำหรับสายครีเอทีฟ พร้อมความเป็นส่วนตัวที่มีเพียงเฉพาะคนที่ได้ ซึ่งนับเป็นการสร้างมูลค่าของแบรนด์ในการเจอกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน และพัฒนาแบรนด์ออกมาได้ตอบโจทย์ นี่จึงถือเป็นอีก case study ที่เราอยากนำมาเล่าให้ฟังกัน
.
.
หากเพื่อนๆ คนไหนชอบเรื่องราวของแบรนด์ดีไซน์แบบนี้ มีให้อ่านอีกเยอะที่ > https://www.style-stay.com/brand/