Cup Noodles Museum : SS Museum EP.8 ลิ้มรสมิวเซียมบะหมี่ถ้วยสุดครีเอท ที่โยโกฮาม่า
.
ถ้าคิดว่ามิวเซียมหรือพิพิธภัณฑ์ต้องมีแค่เรื่องของ “ศิลปะ” ไม่แน่เสมอไป พิพิธภัณฑ์คือแหล่งเรียนรู้และสร้างเสริมประสบการณ์ชั้นเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร วิทยาศาสตร์ ศิลปะ หรือแม้กระทั่งเรื่องที่ใกล้ตัวมากๆ อย่าง อาหาร วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับมิวเซียมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่เราขอยกให้เป็นมิวเซียมอาหารที่อร่อย ได้ความรู้ และส่งต่อแรงบันดาลใจมากๆ ไปกันเลย!
.
.
เพื่อนๆ คนไหนที่ชอบเรื่องราวของมิวเซียมจากทั่วโลก เรารวมไว้แล้วที่โซน Travel > Museum คลิกเลย! หรือเรื่องของ Brand คลิกเลย!
.
01 ฉีกซอง!
.
ก่อนจะเข้าสู่ Cup Noodles Museum ที่เมืองโยโกฮาม่า (Yokohama) ประเทศ ญี่ปุ่น *เมืองนี้สามารถมาเที่ยวจากโตเกียวไปเช้าเย็นกลับก็ได้ เหมาะมากสำหรับครอบครัว เพื่อน แฟน มาที่นี่ ยังไงก็ดี แนะนำเลยค่ะ เราจะขอพาไปรู้จักกับเรื่องราวก่อนเข้าสู่มิวเซียม ว่าที่นี่มีที่มาอย่างไร ค่อยๆ ฉีกซอง แล้วไปรู้จักเรื่องราวของที่นี่ด้วยกัน
.
.
Cup Noodles Museum หรือ มิวเซียมบะหมี่ถ้วย / บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เป็นมิวเซียมที่บอกเล่าเรื่องราว ประวัติศาสตร์การคิดค้น ต้นแบบบะหมี่ถ้วยของโลกอย่างแบรนด์ NISSIN (นิชชิน) หรือถ้าเราคุ้นตาก็อยู่แล้วก็คือ บะหมี่ยี่ห้อนิชชิน นั่นแหละ แต่นี่ไม่ใช่แค่จะมาโชว์ขายของว่า นิชชิน ดียังไง แต่นิชชินถือว่าเป็นแบรนด์สร้างสรรค์นวัตกรรม เพราะเค้าคือแบรนด์ที่คิดค้นการทำ บะหมี่ลงถ้วย เจ้าแรกของโลก! — เรื่องราวมันเป็นอย่างไร เราจะพาไปรู้จักกันคนๆ นึงก่อน นั่นคือคุณ “โมะโมะฟุกุ อันโด” (安藤百福)
.
Momofuku Ando โมะโมะฟุกุ อันโด — เดิมชื่อ อู๋ ไป่ฝู (吳百福) ทีมีบิดา มารดาเป็นคนไต้หวัน ที่ทำกิจการขายเสื้อผ้า และขยายธุรกิจมายังเมือง Osaka ประเทศญี่ปุ่น คุณอันโด มีช่วงชีวิตตั้งแต่เด็กจนโตวุ่นวายมาก ตั้งแต่ย้ายประเทศ ธุรกิจล้มละลาย เข้าคุกข้อหาภาษี ต้องเปลี่ยนสัญชาติไปมา จนสุดท้าย ในปี 1966 เค้าได้เปลี่ยนสัญชาติมาเป็น ญี่ปุ่น เต็มตัวโดยใช้นามสกุลภรรยา (มาซาโกะ อันโด)
.
ความเจ๋งของคุณอันโด คือ เค้าคือชายที่คิดค้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปคนแรกของโลก! ในปี 1958 เพราะเหตุเกิดจากภาวะขาดแคลนอาหารหลังสงคราม สหรัฐอเมริกาจึงนำข้าวสาลีมาเป็นขนมปังให้แก่ชาวญี่ปุ่น แต่คุณอันโด ก็คิดว่า ในเมื่อ ราเม็งก็ทำมาจาก ข้าวสาลี เหมือนกัน ทำไมไม่ทำราเม็งให้เก็บได้นานได้ ?
.
ด้วยไอเดียนั้นเอง เค้าจึงเริ่มคิดค้นจากความตั้งใจ ตั้งต้นว่าจะทำ ราเม็งที่ อร่อย เก็บได้นาน ทำง่าย และไม่แพง ให้แก่ทุกคน และได้ไอเดียการเก็บรักษาเส้นมาจาก การทำเทมปุระ (การชุบแป้งทอด) — วิธีการนั้นแสนง่าย นั่นคือ นำเส้นที่ทำจากแป้งสาลีมาต้มในซุปไก่ พอเส้นดูดซึมรสชาติเต็มที่แล้ว ให้นำมาผึ่งให้แห้ง แล้วนำไปทอดในน้ำมันเดือดๆ เพื่อไล่ความชื้นออกให้หมด เพื่อการเก็บรักษาได้นาน ไม่เน่าเสีย เท่านี้ก็ได้ บะหมี่สำเร็จรูป ที่เรากินกันตายกันทุกวันแล้ว!
.
จากเดิมด้วยความที่คุณอันโด มีความเป็นนักธุรกิจในตัวอยู่แล้ว (แกทำมาหมดตั้งแต่ ขายเสื้อผ้า ขายเกลือ เปลี่ยนสัญชาติ) จึงนำไอเดียที่ได้ ผลิตออกมาขายให้คนทานทั่วญี่ปุ่น ที่มีชื่อแบรนด์ว่า “ชิกิง ราเมง” (Chikin Ramen) ราคาซองละ 35 เยน (ตอนนั้นราเมงปกติชามละ 6 เยน ถือว่าแพงมาก) ในปี 1958 เดือนสิงหาคม ชาวโลกก็ได้ชิม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เป็นครั้งแรก!
.
เรื่องราวที่เราเล่ามาทั้งหมด ยังไม่เข้าเรื่อง ถ้วย กันเลยนะคะ แล้ว “CUP NOODLES” มาตอนไหน ?
.
02 เทเครื่องปรุง
.
หลังจากที่บะหมี่ของคุณอันโด ได้รับความนิยมมาก ในตลาดแรงงาน ทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว จนมีโอกาสได้เดินทางไปยัง สหรัฐอเมริกา และเห็นคนเอาบะหมี่เทลงในถ้วยกระดาษ เค้าจึงเกิดไอเดียว่า ทำไมไม่ทำใส่ถ้วยขายไปเลย คนจะได้ไม่ลำบาก — จึงกลายเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ของเค้า นั่นคือ Cup Noodles นั่นเอง!
.
.
นี่จึงไม่ใช่แค่ ความบังเอิญ แต่คือ การหาคำตอบใหม่ๆ ที่จะมาแก้ไขปัญหาให้ผู้บริโภคของคุณอันโด จึงทำให้ ทุกวันนี้เรามีผลิตภัณฑ์นวัตกรรมอย่าง บะหมี่ถ้วยกึ่งสำเร็จรูป นั่นเอง!
.
แต่เรื่องราว ยังสนุกกว่านั้นอีก กว่าจะได้ บะหมี่ถ้วยนึงมา เป็นยังไง ตอนนี้เราซื้อตั๋วเข้ามิวเซียมกันต่อดีกว่า
.
.
03 ราดน้ำร้อน
.
Cup Noodles Museum เป็นมิวเซียมติดริมอ่าว Yokohama บรรยากาศดี และค่าเข้า 500 เยน ถือว่าราคาไม่แพง เมื่อเข้ามาโซนแรกเราจะได้พบกับ บันได เพื่อเข้าสู่ห้องแรกคือ ประวัติศาสตร์บะหมี่ถ้วย (Instant Noodles History Cube)
.
ห้องนี้ของดีคือ Display บะหมี่ถ้วย หลากหลายดีไซน์มากกกก เป็นกำแพงยักษ์ ที่สามารถถ่ายรูปคู่ได้ แค่นั่งดูกราฟิกบนถ้วยแต่ละยุค ก็คือเพลินมากแล้ว และไม่ใช่แค่ถ้วย ยังมียุคแรกคือ ซอง อีกด้วย
.
.
ห้องต่อมา เป็น ห้องที่จำลอง บ้านคุณ โมะโมะฟุกุ อันโด (Momofuku’s Work Shed) ในยุคนั้น ที่เป็นต้นกำเนิดของการทอดบะหมี่ ให้สามารถเข้าไปดู ถ่ายภาพ (อารมณ์เหมือนอัมพวา) ได้ แต่ที่โดดเด่นคือ เราจะได้รับรู้ถึงประวัติการคิดค้น ไอเดียว่า บางทีไอเดียก็ใกล้ตัวมาก เช่น การทอดเทมปุระของภรรยา จะสามารถนำมาประยุกต์และเป็นคำตอบที่เราตามหาอยู่ก็ได้
.
.
04 รอเวลา
.
นอกจากการคิดค้น การทอด ได้แล้ว เรื่องต่อมาที่เราเล่าไปแล้วคือ นำบะหมี่ลงถ้วย — ดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย แต่จากการทดลองทำบะหมี่ก้อนลงถ้วยมาหลายครั้ง คุณอันโด พบว่า ต้องเป็นก้อนบะหมี่แบบปากบาน ถึงจะอร่อยที่สุด แต่การเอาเจ้าก้อนบะหมี่บาน จับลงถ้วยนั้นไม่ง่าย เพราะกว่าจะยัดลง บะหมี่ก็แตกไปหมดแล้ว แล้วคำตอบคืออะไร ?
.
คำตอบคือ งั้นเราก็แพ็คถ้วยกลับด้านซะเลย! — คิดภาพง่ายๆคือ เราจะไม่หย่อนบะหมี่ลงด้วย แต่เราจะเอาถ้วยครอบบะหมี่ แล้วกลับหัวมัน ! นอกจากได้รูปทรงเดิม ปากบาน บะหมี่ไม่แตก นี่คือการสร้างสรรค์ง่ายๆ แต่ได้ Solution ที่สมบูรณ์แบบมาก!!
.
Museum นี้จึงไม่ใช่แค่มิวเซียมอาหารธรรมดาแล้ว แต่นี่มันคือมิวเซียมที่เล่าความคิด การแก้ปัญหา ผ่านไอเดียสร้างสรรค์ ดีไซน์ ต่างหาก!
.
.
05 คลุกเคล้าให้เข้ากัน
.
ไม่ใช่แค่ให้ผู้ชมได้รับความรู้ สาระ แต่มิวเซียมนี้ยังเล่นสนุกกับเด็กๆ อีก ที่ด้านบนจะมีช่วงให้ทำบะหมี่ กดตู้กันเอง จนไปถึง โซนเลือกเครื่องในบะหมี่ (My CUPNOODLES Factory) เพื่อทำบะหมี่ของตนเอง วาดภาพถ้วยของตนเอง และเป็นของที่ระลึกกลับบ้านไปด้วย
.
ไอเดียญี่ปุ่น ที่ละเอียดอ่อน คิดถึงผู้อื่น และมี Gimmick ได้ทุกท่วงท่าจริงๆ
.
06 อร่อย ไปกับ CUP NOODLES!
.
ความรู้ก็ได้แล้ว ของฝากก็ได้กลับบ้านแล้ว ~ ได้เวลาเติมบะหมี่เข้าท้อง ที่นี่จึงเป็นมิวเซียมที่มี โรงอาหาร (NOODLES BAZAAR -WORLD NOODLES ROAD-) ที่รวมเส้นบะหมี่จากหลายชาติทั่วโลกออกมาในรูปแบบ Food Court ที่เชิญเลือกซื้อทานกันได้เลย !!
.
นอกจากนั้นแล้ว Museum Shop ก่อนออกจากที่นี่คือ ดีมาก มีการขายเซรามิค ของที่ระลึกที่เล่นกับ Cup Noodles อย่างเต็มรูปแบบ ชวนให้เสียเงินทุกชิ้น! **แนะนำงานของ Nendo – บริษัทออกแบบชื่อดังของญี่ปุ่น ที่เล่นกับทรงถ้วยออกมาได้เท่มาก อยากซื้อกลับไปทุกชิ้น ฮืออออ [ดูผลงานเพิ่มเติมได้ที่ http://nendo.jp/]
.
TASTE OF IDENTITY
.
อีกเรื่องที่เราไม่พูดไม่ได้คือ Logo + Corporate Identity ของที่นี่ เจ้าแถบสีแดง 3 ขีดที่แสนเป็นเอกลักษณ์ เสมือน Logo ของมิวเซียม ที่เข้าไปอยู่กับผลิตภัณฑ์ทุกอย่างได้ลงตัวมากกก ถูกออกแบบโดย Kashiwa Sato — ดีไซเนอร์ชื่อดัง เจ้าพ่องานกราฟิกดีไซน์ของญี่ปุ่น ที่ผลงานระดับโลก เช่น Logo UNIQLO, Rakuten, Tsutaya และอื่นๆ อีกมากมาย
.
เราจึงขอยกได้ว่า Cup Noodles Museum ไม่ใช่มิวเซียมที่เพลิดเพลินอย่างเดียว ที่นี่ถือว่าครบมากทั้ง อาหารตา อาหารสมอง อาหารท้อง เรียกว่า มาที่เดียว สนุกสนานกลับไปแน่นอน
.
นี่คือ พลังของการนำเสนอ การเล่าเรื่อง จากเรื่องราวเล็กๆ ของบะหมี่ถ้วย แต่ได้ส่งต่อแรงบันดาลใจ ความรู้ ไอเดีย จินตนาการให้แก่เยาวชน ครอบครัว และทุกคนที่ได้มีโอกาสมาเยือนที่นี่ เราจึงอยากแนะนำว่า ถ้ามีโอกาสไปโยโกฮาม่า ขอให้ไปที่นี่ แล้วคุณจะเปิดโลกการกินบะหมี่ได้อร่อยขึ้นอีกเป็นกอง! 😀
CUP NOODLES MUSEUM อันหลักอยู่ที่เมือง Yokohama แต่ยังมีสาขาเพิ่มเติมคือที่ OSAKA ที่เรียกว่า CUPNOODLES MUSEUM OSAKA IKEDA อีกด้วยนะ
.
Reference
- https://www.cupnoodles-museum.jp/en/yokohama/
- https://go-graph.com/japan-north-south-ep13-go-yokohama/
- https://thepeople.co/momofuku-ando-nissin-instant-noodle/
- https://www.designboom.com/design/nendo-cup-noodle-matryoshka/
- https://www.dezeen.com/2012/03/27/cupnoodle-forms-by-nendo/
- https://kashiwasato.com/project/7118
- https://www.itsnicethat.com/features/momofuku-ando-the-invention-of-instant-noodles-and-cup-noodles-design-legacies-230221
Related posts:
- Guggenheim Museum Bilbao : SS Museum EP.1 พาเที่ยวมิวเซียม Guggenheim สเปน
- Zeitz Museum : SS Museum EP.9 มิวเซียมศิลปะแอฟริกา ที่เปลี่ยนเคปทาวน์ให้ฮิป!
- Solomon R. Guggenheim : SS Museum EP.2 พาเที่ยวมิวเซียม Solomon R. Guggenheim นิวยอร์ก
- MoMA มิวเซียม New York : SS Museum EP.10 มิวเซียมอาร์ตระดับโลกที่มีดีทั้งชมและช็อป!